ภาษีรถยนต์คืออะไร ?
คนขับรถหลายคนยังคงสับสนและปวดหัวอยู่ตลอด เพราะนอกจะสับสนกับพรบ.รถยนต์ที่ต้องต่อทุกปีแล้ว ก็คือเรื่องภาษีรถยนต์ ที่จะต้องเตรียมเงินและเอกสารต่างๆ ไปยื่นที่กรมขนส่งเพื่อทำเรื่องต่อภาษีรถยนต์ หรือต่อทะเบียนรถยนต์นั่นเอง
ภาษีรถยนต์ คือ ป้ายกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ผู้มีรถยนต์จะต้องจ่ายภาษีรถยนต์ตามที่กฎหมายบังคับ เมื่อถึงกำหนดชำระ ซึ่งภาษีรถยนต์ที่เราชำระไปทุกปีนั้นทางหน่วยงานภาครัฐจะนำไปพัฒนาปรับปรุงถนน รวมไปถึงการคมนาคมภายในประเทศต่อไป ถ้าหากปล่อยขาดอาจทำให้ถูกปรับและเสียเวลาในการดำเนินการต่ออีกด้วย
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์
1. การต่อภาษีรถยนต์แต่ละครั้งจะต้องทำการต่อภาษีรถยนต์ในปีที่หมดอายุ โดยคุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ก่อนวันที่จะหมดอายุล่วงหน้า 90 วัน ซึ่งก็มีเวลาเพียงพอให้คุณสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์ได้พอสมควร
2. กรณีที่ต่อภาษีรถยนต์ล่าช้ากว่าที่กำหนด ค่าปรับก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยนับตั้งแต่วันที่ขาด 1 วันขึ้นไป ทางกฎหมายจะถือว่าเป็นการขาดต่อภาษีรถยนต์ซึ่งนับเวลาตั้งแต่ 1-3 ปี จะต้องเสียค่าปรับร้อยละ 1 % ต่อเดือน
3. กรณีที่ขาดต่อภาษีรถยนต์มากกว่า 3 ปีขึ้นไป จะถือว่าป้ายทะเบียนรถยนต์นั้นๆ ถูกยกเลิกทันที หากต้องการต่อภาษีรถยนต์ใหม่จะต้องนำป้ายทะเบียนเดิมไปคืนที่กรมขนส่งทางบก พร้อมกับชำระค่าปรับ จึงจะสามารถทำใหม่ได้
4. สำหรับการต่อภาษีรถยนต์ทุกครั้ง รถยนต์ที่มีอายุไม่ถึง 7 ปี ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อ แต่หากรถยนต์มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจสภาพรถให้ครบก่อน ถึงจะสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้
5. สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือคุณจะต้องต่อพรบรถยนต์ หรือที่เรียกว่าประกันภาคบังคับก่อน ถึงจะทำการต่อภาษีรถยนต์ได้
ต่อภาษีรถยนต์ใช้เอกสารอะไรบ้าง ต่อภาษีได้ที่ไหนบ้าง ?
เอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนไปยื่นต่อภาษีรถยนต์ มีดังนี้ 1. คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริงหรือสำเนาก็ได้ 2. หลักฐานที่ระบุไว้ว่าได้ทำประกันภัยตามที่กฎหมายบังคับ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า พ.ร.บ. รถยนต์ 3. ใบรับรองการตรวจสอบสภาพรถยนต์ หากรถยนต์มีอายุเกินกว่า 5 ปีขึ้นไป รวมไปถึงในกรณีที่รถมีการดัดแปลงสภาพ สามารถต่อภาษีได้ที่ไหนบ้าง 1. สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ (ไม่ว่ารถจดทะเบียนที่จังหวัดไหนก็สามารถจ่ายภาษีรถยนต์ได้ทั้งหมด) 2. ที่ทำการไปรษณีย์ 3. เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ 4. การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ (www.eservice.dlt.go.th) 5. ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ชอปให้พอแล้วต่อภาษี” (Shop Thru For Tax) 6. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) 7. จุดบริการเลื่อนล้อต่อภาษีรถยนต์ (Drive Thru For Tax) 8. ใช้บริการผ่านสถานที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์และต่อภาษีรถยนต์ โดยจะมีค่าบริการอยู่ที่ 200-300 บาท ต่อคัน
หากขาดต่อภาษีรถยนต์จะเป็นอย่างไร ?
1. รถยนต์ที่ขาดต่อภาษีรถยนต์เกิน 1 ปี แต่ยังไม่ถึง 3 ปี ในกรณีที่รถยนต์ขาดต่อภาษีรถยนต์เกิน 1 ปี แต่ยังไม่ถึง 3 ปี ทะเบียนจะยังไม่ถูกยกเลิกและสามารถไปเสียค่าภาษีรถยนต์และต่อทะเบียนได้ตามปกติ และมีค่าปรับในการชำระภาษีรถยนต์ย้อนหลังเดือนละ 1%
2. รถยนต์ที่ขาดต่อภาษีรถยนต์เกิน 3 ปีขึ้นไป สำหรับกรณีที่รถยนต์ขาดต่อภาษีรถยนต์นานเกิน 3 ปีขึ้นไป จะต้องทำการจดทะเบียนใหม่เท่านั้น เนื่องจากป้ายทะเบียนได้ถูกระงับการใช้งานไปแล้ว โดยเจ้าของรถจะต้องนำแผ่นป้ายทะเบียนและเล่มทะเบียนรถไปคืนให้กับทางกรมขนส่งทางบก ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่โดนยกเลิกทะเบียน หากไม่นำไปคืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แล้วจึงจะสามารถต่อทะเบียนและภาษีรถยนต์ได้ ตามปกติพร้อมทั้งเสียค่าปรับภาษีรถยนต์ย้อนหลังเช่นเดียวกัน
|